สำหรับอาการปวดอุ้งเชิงกรานตอนท้อง คือ อาการปวดที่อยู่บริเวณอุ้งเชิงกรานหรือบริเวณท้องน้อย เพราะภายในบริเวณนี้มีอวัยวะที่ทำให้เกิดอาการปวดหลายอย่าง ทั้งกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ มดลูก รังไข่ รวมไปจนถึงกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ อีกด้วย โดยอาการส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นพยาธิสภาพที่อวัยวะใดก็ตาม สามารถทำให้มีอาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ ได้ทั้งหมดเลยค่ะ
คุณแม่รู้ไหมคะว่า มากถึง 45% ของผู้หญิงตั้งครรภ์ มีอาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ (Verstraete et al., 2013)
สาเหตุหลัก ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ เกิดจากอะไร?
อาการปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์ แต่ก็มีบางกรณีที่อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
สาเหตุที่พบได้บ่อย:
- การขยายตัวของมดลูก: ในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ มดลูกจะเริ่มขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกปวดหน่วงๆ หรือตึงบริเวณอุ้งเชิงกรานได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ฮอร์โมนรีแล็กซิน (Relaxin) ที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้ข้อต่อและเส้นเอ็นบริเวณอุ้งเชิงกรานคลายตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดได้
- อาการปวดเอ็นยึด: เส้นเอ็นที่พยุงมดลูกจะยืดออกและตึงขึ้นเมื่อมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดแปลบๆ หรือปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยหรือขาหนีบ มักเป็นในช่วงไตรมาสที่สอง
- แรงกดทับ: เมื่อครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้น จะกดทับอวัยวะต่างๆ ในอุ้งเชิงกราน เช่น กระเพาะปัสสาวะ ทำให้รู้สึกไม่สบายหรือปวดได้
- ท้องผูก: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกและปวดท้องน้อยได้
NHS UK ก็ระบุว่า อาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ เกิดจากการเคลื่อนไหวของข้อต่อเชิงกรานที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพระหว่างตั้งครรภ์
“ฮอร์โมนทำให้เอ็นและข้อต่อบริเวณเชิงกรานนุ่มขึ้น และทำให้เคลื่อนไหวได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวด” — Heba Shaheed, นักกายภาพบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านอุ้งเชิงกราน
ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ อันตรายไหม ?
ปวดอุ้งเชิงกราน มักเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไปจนถึงช่วงหลังคลอด โดยอาการปวดกระดูกเชิงกรานมักไม่ได้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในท้อง แต่อาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่บ้างในบางครั้งหากมีอาการปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรมองข้ามอาการปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์

อาการปวดอุ้งเชิงกรานที่ไม่เป็นอันตราย
- ปวดหน่วงๆ ตึงๆ บริเวณท้องน้อย
- ปวดแปลบๆ ที่ขาหนีบ (อาการปวดเอ็นยึด)
- อาการปวดไม่รุนแรงและค่อยๆ ดีขึ้น
- ไม่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
- ไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด คลื่นไส้ อาเจียน
สัญญาณอันตราย อาการปวดอุ้งเชิงกรานที่ควรไปพบแพทย์ทันที
- ปวดท้องน้อยรุนแรง: ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หรือปวดตลอดเวลา
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด: เลือดออกมาก เลือดสด หรือมีลิ่มเลือด
- ปวดท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งอย่างรุนแรง: อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- มีอาการอื่นร่วมด้วย:
- ไข้ หนาวสั่น
- ปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะบ่อย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หน้ามืด วิงเวียน
- มดลูกแข็งตัวเป็นพักๆ ก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ (อาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด)
- น้ำเดิน
หากคุณแม่มีอาการปวดรุนแรง ปวดจนเดินไม่ได้ หรือรู้สึกเจ็บในทุกการขยับ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาการปวดอุ้งเชิงกราน ที่ไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะเรื้อรังหลังคลอด
บทความที่เกี่ยวข้อง : อุ้งเชิงกรานแคบ กระดูกอุ้งเชิงกรานแคบ คนท้องคลอดเองได้ไหม
อะไรทำให้แม่ท้องปวดเชิงกรานมากขึ้น
- การเดินนาน ๆ
- การเดินเร็ว ๆ
- การขึ้นลงรถ หรือเตียง
- การพลิกตัวบนที่นอน
- การนอนราบ
- การนั่งยอง ๆ
- การขึ้น-ลงบันได
- การยืนขาเดียว (เช่น เวลาแต่งตัว ใส่กางเกง)
- การเปลี่ยนท่าทางจากนั่งเป็นยืน
- การวิ่ง และกระโดด
วิธีบรรเทาอาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์
- ใช้ไอซ์แพ็กประคบบริเวณที่ปวดประมาณ 20 นาทีทุก 2-3 ชั่วโมง ควรห่อไอซ์แพ็กก่อน เพื่อไม่ให้น้ำแข็งสัมผัสผิวหนังโดยตรง
- ประคบร้อน วางแผ่นความร้อนหรือผ้าประคบอุ่นบริเวณที่ปวด หรือแช่ตัวในอ่างอาบน้ำอุ่นประมาณ 15–20 นาที/ครั้ง วันละ 1–2 ครั้ง ระวังอย่าให้ร้อนจัด และหลีกเลี่ยงบริเวณหน้าท้อง
- ยืนตัวตรง นั่งหลังตรง
- ใช้เข็มขัดพยุงครรภ์ ช่วยพยุงหลังและหน้าท้อง ลดอาการปวดจากกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ยืดขยาย
- นั่งรถเข็นแทนการเดินไกล ๆ
- จัดท่าทางที่ช่วยลดอาการปวดเชิงกราน จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายขึ้น
ใช้ “ประคบเย็น” เมื่อลักษณะอาการต่อไปนี้
ใช้ “ประคบร้อน” เมื่อลักษณะอาการต่อไปนี้
-
ปวดแบบตื้อ ๆ หรือเกร็งกล้ามเนื้อ
-
กล้ามเนื้อยึดหรือแข็งหลังตื่นนอน
-
ต้องการคลายกล้ามเนื้อ ลดความเกร็ง

ทำอย่างไรไม่ให้ปวดเชิงกรานมากขึ้น
แม้จะเจ็บแต่การเริ่มเคลื่อนไหวเบาๆ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและอาจช่วยลดความรู้สึกไม่สบายได้ ทำให้อาการดีขึ้นมากกว่าการนอนพักเฉยๆ
- เวลาเดินให้เดินก้าวสั้น ๆ และเดินเพียงใกล้ ๆ
- หลีกเลี่ยงงานบ้านที่ต้องใช้แรงเยอะ
- แบ่งงานใหญ่ ๆ ให้เป็นกิจกรรมย่อย ๆ
- ทำไปพักไป อย่าหักโหม
- เวลาพลิกตัวบนที่นอนควรรวบเข่าให้ชิดกัน
- นอนตะแคงข้างโดยใช้หมอนหนุนขาไว้
- นอนพักให้ถูกท่า
- เมื่อท้องโตแล้วให้ใช้หมอนช่วยเสริม
- การออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเหมาะสม
ใครมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดกระดูกเชิงกรานบ้าง
จากการสำรวจพบว่า 1 ใน 5 ของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ มักจะมีอาการปวดกระดูกเชิงกราน (PGP) แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมการปวดบริเวณกระดูกเชิงกราน จึงส่งผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แค่เพียงบางคนเท่านั้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอาจเชื่อมโยงกับปัญหาหลายประการ เช่น ความเสียหายที่เคยเกิดขึ้นกับกระดูกเชิงกราน หรือข้อต่ออุ้งเชิงกรานมีการเคลื่อนไหวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงตำแหน่งของทารกในครรภ์
จากการศึกษาของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่าในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 342 คน
ซึ่งบ่งชี้ว่าการปวดอุ้งเชิงกรานไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้องใส่ใจตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ปวดอุ้งเชิงกราน ขณะตั้งครรภ์ เจ็บท้องน้อย ปวดจี๊ด จะเป็นอันตรายหรือไม่
เมื่อไหร่ควรรับการรักษาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์?
การได้รับการวินิจฉัยเร็วจะสามารถช่วยรักษาอาการปวดให้เหลือน้อยลงได้ โดยเฉพาะการรักษาเมื่อขยับข้อต่อไม่ได้ เพราะได้รับผลกระทบที่รุนแรง หากคุณแม่รู้สึกปวดบริเวณกระดูกเชิงกราน ควรแจ้งให้คุณหมอทราบโดยตรง เพราะปัญหาเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่หายขาด จนกระทั่งคลอด และการรักษาจะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ

การรักษาอาการปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์
เมื่อเกิดอาการปวดอุ้งเชิงกรานในระหว่างที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ สามารถทำกายภาพบำบัด เพื่อบรรเทาอาการปวดได้เลยค่ะ เพื่อเป็นการปรับปรุงการทำงานกล้ามเนื้อ แถมยังช่วยให้ข้อต่ออุ้งเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องอีกด้วย
- ทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยให้ข้อต่อของกระดูกเชิงกราน สะโพก และกระดูกสันหลัง กลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
- พยายามออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หน้าท้อง หลัง และกล้ามเนื้อสะโพกอยู่เสมอ
- ออกกำลังกายในน้ำเพื่อให้อาการปวดบรรเทาลง
- ใช้อุปกรณ์ช่วยไม่ว่าจะเป็นไม้ค้ำ หรือเข็มขัดพยุงกระดูกเชิงกรานก็ทำให้คุณแม่ปวดน้อยลง
- การบรรเทาอาการปวดด้วยการใช้ยารักษา
วิธีรับมือกับอาการปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์
ส่วนใหญ่นักกายภาพบำบัดมักจะแนะนำให้ใช้เข็มขัดพยุงกระดูกเชิงกรานเป็นตัวช่วยด้วย เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด หรือไม่ก็ใช้ไม้ค้ำ เพื่อช่วยให้คุณแม่เดินได้สะดวก แต่สำหรับคุณหมอบางท่านก็อาจจะมีคำแนะนำเสริมอีก ได้แก่

- ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้มีอาการปวดมากขึ้น
- พยายามสวมรองเท้าแบน และมีการรองรับแรงกระแทกได้ดี
- ให้คุณแม่หนีบหัวเข่าเข้าด้วยกัน ขณะเข้าและออกจากรถค่ะ
- นอนท่าที่สบาย โดยมีหมอนรองระหว่างขาด้วยค่ะ โดยเฉพาะท่านอนตะแคง
- ให้หาวิธีพลิกตัวตอนอยู่บนเตียงด้วยวิธีต่าง ๆ กัน เช่น ให้ใช้เข่าทั้ง 2 ข้าง และกระเถิบก้นเพื่อเคลื่อนที่
- ก้าวขึ้นบันไดทีละก้าว หรือจะใช้วิธีถอยหลังขึ้นบันไดแทนก็ได้ค่ะ
- ห้ามยืนบนขาข้างเดียวในขณะแต่งตัว
- พยายามเลี่ยงการอุ้มทารกไว้บนสะโพกข้างเดียว
- ให้เลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง
- ไม่ยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป
คุณแม่ที่มีอาการปวดอุ้งเชิงกรานในระหว่างตั้งครรภ์ สามารถคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติได้ แต่อาจจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการคลอดบุตรกับคุณพ่อหรือคุณหมอไว้ก่อนค่ะ และที่สำคัญก็เพื่อลดอาการปวดของคุณแม่ลงด้วยนั่นเอง หากปล่อยทิ้งไว้นานตอนคลอดจะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดมาก ๆ เลยค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์บางราย ความเจ็บปวดนี้บางครั้งมันยังสามารถปวดไปจนถึงต้นขา และทำให้ได้ยินเสียงคลิก หรือรู้สึกขัด ๆ บ้างในบริเวณอุ้งเชิงกราน โดยคุณแม่สามารถสังเกตอาการได้อย่างชัดเจนเวลาเดินขึ้นบันได หรือขณะพลิกตัวอยู่บนเตียง หากมีอาการปวดมากเกินไปจนรู้สึกใช้ชีวิตยากขึ้น คุณแม่ต้องรีบเข้ารับการรักษาทันทีนะคะ เพราะอาการนี้จะไม่หายไป จนกว่าจะคลอดลูกเลยค่ะ
การปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม หากคุณแม่เริ่มมีอาการ ไม่ควรรอให้ปวดหนักจนกระทบต่อการใช้ชีวิต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินอาการ และเลือกแนวทางดูแลที่เหมาะสม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ภาวะคลอดยาก cpd คือ อะไร อุ้งเชิงกรานแม่แคบ ลูกหัวโต ต้องผ่าคลอดเท่านั้น
การฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์สำคัญอย่างไร
100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 81 คนท้อง กับ ท่าบริหารอุ้งเชิงกราน
ที่มา : agnoshealth , Cleveland Clinic
อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2568
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!